วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

รายการเลดี้ ออนทัวร์.mpg

แบบทดสอบ
คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.             ความสำคัญของวันมาฆบูชา 4 ประการ ได้แก่อะไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2.             วันมาฆบูชา ตรงกับวันใด
……………………………………………………………………………………………………….
3.             สิ่งที่เราต้องมีในการเวียนเทียนมีอะไรบ้าง (บอกเป็นภาษาอังกฤษ)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….





ชื่อ…………………………….นามสกุล……………………………

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

How To Have Peace of Mind – Six Principles To Achieve It

As we go through life we will meet crisis, problems and challenges along the way. Some of these will be unbearable that we feel we are pushed to the limits; our health is compromised and our relationship with our loved ones and other people are affected. Peace of mind becomes very elusive.
Peace does not stay with you unless you develop certain qualities and establish certain conditions. Without discipline, control of your thoughts, detachment, moderation in your habits and desires, appropriate awareness and attitude, you cannot expect to have peace in your life and in your mind.
If you want to have peace of mind and become a normal state of your awareness, you must follow the following six principles:
1.       Learn to let go of things. Do not hold on to anything. What you hold in your mind is what holds you back from being your true self. What you carry in your mind as negative thoughts from your past, is the undigested food that stays inside your consciousness, like rotten meat emitting fowl energy. Let go of this foul energy with loving understanding for all those who harmed you, till you are at peace with yourself. Accept them as more players whose sole purpose in your life is to teach you lessons. Unknot the knots of hatred. Send peace into their homes and hearts, and their minds and bodies. Learn to live with detached mind.
2.       Have faith in yourself and in God. With faith and confidence in yourself and God you can deal with the problems and challenges of your life very successfully. Faith takes you closer to God.

 3.       Cultivate and preserve positive mental attitude. To maintain positive mental attitude, you need not have to overlook the reality. You have to acknowledge the problem, accept it, but keep faith in yourself and your abilities to solve it. As long as you have this unshakable confidence and faith in yourself, in your connection with God, and in the good you find in other human beings, you have positive mental attitude.
 4.       Give unconditional love. Let love from deep within in your heart flow into all directions. Start with your spouse you have and child children, your parents and those whom you meet along the way.
 5.       Express gratitude. From the time you were born till today realize that you have received help and encouragement from people you know, to the books that you read, the money that you received from work, and the inspiration that you got. If you do this, you are releasing the flow of abundance that makes you of what you are today. You are inviting peace and harmony back into your life.
 6.       Know the meaning of sacrifice. Do not seek, but give. Make others happy. Help them in your own individual ways. Help the needy. Surprise someone with generosity. The more you give, the greater is your sense of freedom from want and obligations.

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

NOUN

ก่อนจะเริ่มพูดเริ่มเขียนภาษาอังกฤษ เราควรจะมาทำความรู้จักกับพื้นฐานของรูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษกันก่อน และก่อนที่จะรู้จักกับรูปแบบพื้นฐานของประโยค เราก็ควรจะทำความรู้จักชนิดของคำก่อนด้วย
เอาเป็นว่าเตรียมปากกา กระดาษ และสมาธิไว้ดีๆ ให้เริ่มเรียนกันได้เลย
ชนิดของคำแบบแรกที่จะสอนวันนี้ ก็คือ คำนาม หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า noun ออกเสียงว่า ‘นาว’ ในดิกชันนารี่ (dictionary) มักจะระบุตัวย่อเป็น n.
noun คืออะไร?  คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ อาคาร สภาพ และลักษณะทั้งสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม
มาดูตัวอย่างง่ายๆ ของ noun กันดีกว่าว่ามีคำว่าอะไรบ้าง:
ปากกา ดอกไม้ มหาวิทยาลัย ความซื่อสัตย์ เวลา การเรียน การประปา ความสวย ความคิด นักเรียน ฯลฯ
เอ้า ... มาลองกันก่อนดีกว่า ว่าเรารู้จักคำนามกันหรือยัง
ทดสอบซิ!  (^_^) v

คำว่า ”skirt - กระโปรง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”heart - หัวใจ”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ” office - ที่ทำงาน”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”seminar – การสัมมนา”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”travel – ท่องเที่ยว”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
แล้วถ้าเป็น ”traveling - การท่องเที่ยว”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”วิ่ง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
แล้วถ้าเป็น ”การวิ่ง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
แล้วถ้าเป็น ”วิธีวิ่ง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”important - สำคัญ”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
คำว่า ”folder - แฟ้ม”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”feel - รู้สึก”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
คำว่า ”feeling - ความรู้สึก”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”beautiful – สวย”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
คำว่า ”beauty – ความสวย”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
ตอบถูกไปกี่ข้อเอ่ย... ยังไงก็ปรบมือให้ตัวเองนะคะ
และน่าจะพอเข้าใจแล้วนะคะ ว่าอะไรคือ noun ...
วิธีฝึกอีกอย่างก็คือ อาจจะลองนึกๆ ไปแล้วลองเขียนไว้ว่า คำไหนคือ noun บ้าง
จะส่งมาให้เราเช็คให้ก็ได้ หรืออยากลองเช็คใน dictionary ดูก็ได้ค่ะ
เอ้า มาเรียนกันต่อ ...
ในภาษาอังกฤษจะแบ่ง noun ออกเป็น คำนามนับได้ (Countable Nouns) และ คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Nouns)  ค่ะ

Countable Nouns คืออะไร? คำนามที่นับได้ง่ายๆ ก็คือ คำนามที่สามารถนับเป็นหน่วยได้ด้วยตัวของมันเองค่ะ เช่น glass (แก้ว) สามารถนับได้เป็น 1 ใบ 2 ใบใช่ไหมคะ แบบนี้แหละค่ะ ที่เรียกว่า Countable Nouns  ซึ่งจะมีอยู่ในรูปเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) ค่ะ

มาดูตัวอย่างของ Countable Nouns เพิ่มเติมอีกหน่อยดีกว่านะคะ
table (โต๊ะ)  chair (เก้าอี้)  ง่ายไปมั้ย ...? เอาคำยากๆ มาเรียนด้วยดีกว่านะคะ
  ๐ Countable Nouns แบบมีตัวตน เช่น
        Dollar (เงินหน่วยดอลล่าร์)
        Coin (เหรียญ)
        Suitcase (กระเป๋าเดินทาง)
        Bookshelf (ชั้นวางหนังสือ)
  ๐ Countable Nouns แบบไม่มีตัวตน เช่น
        Day (วัน)
        Month (เดือน)
        Year (ปี)
        Action (การกระทำ)
        Feeling (ความรู้สึก)

Uncountable Nouns คืออะไร? คำนามนับไม่ได้นั่นก็คือ คำนามที่ไม่สามารถนับเป็นหน่วยด้วยตัวของมันเองได้ มีต้องใช้วัตถุใดๆ หรือหน่วยอื่นๆ มาในการใช้วัด หรือตวง รวมถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมอื่นๆ ด้วยเช่น
  ๐ Uncountable Nouns แบบมีตัวตน เช่น
        Furniture (เฟอร์นิเจอร์)
        Luggage (หีบห่อเดินทาง)
        Rice (ข้าว)
        Sugar (น้ำตาล)
        Water (น้ำ)
        Gold (ทอง)

  ๐ Uncountable Nouns แบบไม่มีตัวตน เช่น
        Music (ดนตรี)
        Love (ความรัก)
        Happiness (ความสุข)
        Knowledge (ความรู้)
        Advice (คำแนะนำ)
        Information (ข้อมูล)



แบบฝึกหัด

คำชี้แจง   
คำๆ ไหนเป็น Countable Nouns ให้เขียนแทนด้วย C
คำๆ ไหนเป็น Uncountable Nouns ให้เขียนแทนด้วย U

   _____ milk
   _____ bear
   _____ shadow
   _____ blood
   _____ spoon
   _____ calcium
   _____ tree
   _____ truck
   _____ airplane
   _____ mirror
   _____ goodness
   _____ honest
   _____ messenger
   _____ cardigan
   _____ shoe
   _____ tooth
   _____ celebration
   _____ payment
   _____ subsidiary
   _____ affiliate
   _____ demonstration





เฉลย 

__U__ milk
   __C__ bear
   __U__ shadow
   __U__ blood
   __C__ spoon
   __U__ calcium
   __C__ tree
   __C__ truck
   __C__ airplane
   __C__ mirror
   __U__ goodness
   __U__ honest
   __C__ messenger
   __C__ cardigan
   __C__ shoe
   __C__ tooth
   __U,C__ celebration
   __U,C__ payment
   __C__ subsidiary
   __C__ affiliate
   __U,C__ demonstration 


Remarks: คำนามบางคำ เป็นได้ทั้งรูป uncountable และ countable ค่ะ ขึ้นอยู่กับความหมายที่ใช้ ซึ่งเราสามารถเช็คความหมายได้จาก dictionary นะคะ
เช่นคำว่า celebration ที่สามารถเป็นได้ทั้ง Uncountableและ Countable ในความหมายของรูปแบบ Countable คือ งานเฉลิมฉลอง ซึ่งสามารถนับได้ แต่หากเป็น Uncountable แล้ว จะมีความหมายถึงการเฉลิมฉลอง (การแสดงออกถึงการดฉลิมฉลอง) แบบนี้ก็นับไม่ได้ เป็นต้น